สองสามวันที่ผ่านมานี้ เกี่ยวพันแต่กับเรื่องของการอ่าน ไปอ่านเจอเรื่องหนึ่งเข้าที่เกี่ยวกับประเทศ ภูฏาน (ซึ่งฉันอาจรู้ช้าสุด) อ่านแล้วรู้สึกดีอย่างแรงทั้ง ๆ ที่น้าสาวของก็ชอบเล่าให้ฟังเรื่องภูฏานอยู่บ่อย ๆ แต่ก็ไม่เคยรู้สึกชื่นใจและทำให้นึกถึงประเทศไทยของเรามากขนาดนี้เลย ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าที่ประเทศ ภูฏาน เค้าใช้หลักการปกครองประเทศแบบ GNH (Gross National Happiness) ซึ่งแปลเป็นไทยว่า "ความสุขมวลรวมประชาชาติ" ลองคิดดูสิคะ จะดีแค่ไหนถ้าประเทศที่เราอาศัยอยู่เป็นประเทศที่วัดความเจริญ จากความสุขของคนทั้งชาติ ถ้าวัดความเจริญกันที่ความสุขของแต่ละคน ดิฉันคิดว่าที่ภูฏาน อาจเป็นประเทศที่มีความเจริญที่สุดในโลกก็ได้ สิ่งนี้ทำให้นึกถึงหลักเศรษฐกิจพอเพียง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประทานให้กับปวงชนชาวไทย ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ความเจริญแบบเปลือก ๆ แต่พระองค์ท่านทรงประทานความสุขที่แท้ให้กับประชาชน ความสุขบนพื้นฐานของความพอเพียง ด้วยหลักการใช้ชีวิตด้วยเศรษฐกิจพอเพียงนี่เองหากเรานำมาน้อมใส่เกล้าใส่กระหม่อม ประเทศไทยของเราต้องเป็นประเทศที่มี "ความสุขมวลรวมประชาชาติ" ไม่แพ้ภูฏานอย่างแน่นอน และคนไทยทุกคนก็จะรู้จักคำว่า แบ่งปันและถ้อยทีถ้อยอาศัยกันมากขึ้น คนไทยทุกหมู่เหล่าผูกพันธ์แน่นแฟ้นหาใครเปรียบไม่ได้ หากเป็นเช่นนี้แล้ว ไม่ว่าใครจะมายุยงให้แตกกัน ก็ต้องล่าถอยออกไปเพราะคนไทยปกป้องกันและกัน
ฉันเชื่อเหลือเกินว่าหลายล้านคนในประเทศไทย ได้น้อมนำคำสอนของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ใส่เกล้าใส่กระหม่อม สิ่งที่ประเทศไทยเราไม่เหมือนประเทศใดในโลก คือ เรามีพระมหากษัตริย์ผู้ซึ่งครองแผ่นดินโดยธรรม อีกทั้งยังวางแนวทางแห่งความสุข ให้กับประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าที่อาจกำลังหลับสบายในตอนนี้ คนไทยนี่ช่างน่าอิจฉาเหลือเกิน ว่ามั้ย.